คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Copy Trading

ฝากเงินในบัญชีที่คุณจะคัดลอกธุรกรรมผ่านแท๊ป "การเงิน"

ไปที่แถบ การคัดลอก

คลิกที่ชื่อเล่นของเทรดเดอร์ที่คุณสนใจ ทางด้านขวาของแผนภูมิที่เปิดอยู่ ให้ตั้งค่าพารามิเตอร์ของบัญชีของคุณ: เลือกหนึ่งใน 4 ประเภทของการคัดลอกการเทรด; กำหนดระดับของเงินทุนที่จะหยุดการคัดลอกการซื้อขาย ระบุจำนวนเงินที่จะคัดลอกและคลิกปุ่ม "คัดลอก"

บัญชีพิเศษจะเปิดขึ้นสำหรับการคัดลอกแต่ละครั้ง บัญชีคัดลอกจะแสดงการซื้อขายที่คัดลอกทั้งหมด

แม้ว่าคุณจะสามารถเปิดการซื้อขายของคุณเองได้ในบัญชีคัดลอก แต่เราไม่แนะนำให้ทำเช่นนี้ เนื่องจากการซื้อขายของคุณอาจทำให้กระบวนการคำนวณค่าคอมมิชชั่นมีปัญหา จะไม่เหมือนกับการซื้อขายที่คัดลอก การซื้อขายของคุณเองจะไม่ถูกปิดโดยอัตโนมัติอันเป็นผลมาจากการกระทำของเทรดเดอร์

หากต้องการหยุดการคัดลอก ให้คลิกที่ปุ่ม "หยุดการคัดลอก" ในหน้าเดียวกับที่คุณเริ่มการคัดลอก

แพลตฟอร์ม Social Trading มีการคัดลอกธุรกรรม 4 ประเภท ผู้คัดลอกจะเลือกประเภทและตั้งค่าการคัดลอกเมื่อบัญชีของคุณเชื่อมโยงกับบัญชีเทรดเดอร์

คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคัดลอกการซื้อขายแต่ละประเภทได้ ในหน้านี้

นักลงทุนควรเลือกประเภทของการคัดลอกอย่างรอบคอบ หากจำนวนเงินทุนของคุณแตกต่างจากจำนวนเงินทุนของเทรดเดอร์อย่างมาก และประสบการณ์ของคุณไม่เพียงพอที่จะประเมินกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ ให้ใช้ตัวเลือก “การคัดลอกตามสัดส่วนของอิควิตี้” เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขาย

คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของการคัดลอกการซื้อขายได้ในส่วน "การคัดลอกการซื้อขาย 4 ประเภท" ในหน้า "การคัดลอกการซื้อขายทำงานอย่างไร"

นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้คุณอ่านคำอธิบายบัญชีของผู้ซื้อขายก่อนที่คุณจะเริ่มคัดลอก หากไม่มีคำอธิบาย คุณสามารถสอบถามเทรดเดอร์ของคุณด้วยตนเองได้เสมอโดยส่งข้อความส่วนตัวถึงเขา ในการทำเช่นนี้ ให้คลิกปุ่ม "เขียนข้อความ" บนหน้า "ข้อมูลเทรดเดอร์"

เมื่อคุณถอนเงินจากบัญชีที่คัดลอก การโรลโอเวอร์จะเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ

ซึ่งใช้สูตรต่อไปนี้:

เงินทุนที่สามารถถอนได้ = อิควิตี้ - เครดิต (โบนัส, หากมี) - มาร์จิ้น (สำหรับคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่) – ค่าคอมมิชชั่น (ค่าคอมมิชชั่นของเทรดเดอร์สำหรับการปิดการซื้อขายในขณะนี้)

เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคัดลอกการซื้อขาย, ผู้คัดลอกสามารถกำหนดเงื่อนไขในการหยุดคัดลอกได้ หากการขาดทุนจากการคัดลอกถึงมูลค่านี้ การคัดลอกจะถูกระงับในบัญชีนี้ จำนวนเงินในบัญชีคัดลอกการซื้อขายจะถูกเปรียบเทียบกับเงื่อนไขการหยุดคัดลอกทุกๆ 2 (สอง) นาที

นอกจากนี้ คุณสามารถลดระดับความเสี่ยงได้โดยเลือกประเภทการคัดลอกที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น “การคัดลอก % ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของการเทรดแต่ละครั้งของผู้ซื้อขาย”

ได้ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการคัดลอกและประเภทการคัดลอกได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงจะมีผลกับการคัดลอกการซื้อขายที่จะเปิดในอนาคตเท่านั้น การซื้อขายที่เปิดอยู่ทั้งหมดจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

คุณสามารถคัดลอกเทรดเดอร์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกพารามิเตอร์การคัดลอกที่แตกต่างกันสำหรับเทรดเดอร์แต่ละราย

ระบบของเราใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาทีในการคัดลอกการซื้อขาย คำสั่งซื้อได้รับการประมวลผลโดยการดำเนินการตามตลาด ดังนั้นราคาการดำเนินการในบัญชีคัดลอกอาจแตกต่างจากราคาในบัญชีของเทรดเดอร์เล็กน้อย

มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้การซื้อขายไม่ถูกคัดลอก:

• มีฟรีมาร์จิ้นในบัญชีของนักลงทุนไม่เพียงพอที่จะเปิดตำแหน่งใหม่
• การคัดลอกถูกปิดใช้งานสำหรับโปรไฟล์ของเทรดเดอร์หรือโปรไฟล์ของนักลงทุน โปรดติดต่อฝ่ายบริการสนับสนุนของเราเพื่อสอบถามสาเหตุที่แท้จริง

มีเหตุผลหลายประการสำหรับการปิดธุรกรรมก่อนกำหนดด้วยการคัดลอกตามสัดส่วน:

1. ความแตกต่างระหว่างราคาเปิด/ปิดของการซื้อขายในบัญชีของเทรดเดอร์และบัญชีของนักลงทุน เนื่องจากคำสั่งดำเนินการที่ราคาตลาดปัจจุบัน
2. เทรดเดอร์เปิดการซื้อขายตามเวลาที่นักลงทุนเข้าร่วม ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สมส่วนระหว่างส่วนของเทรดเดอร์และส่วนของนักลงทุน
3. บัญชีของเทรดเดอร์ได้รับการเติมเงินโดยไม่มีการเติมในบัญชีคัดลอก ซึ่งทำให้อัตราอิควิตี้ในบัญชีเปลี่ยนไป

การเปลี่ยนแปลงในส่วนแบ่งกำไรของเทรดเดอร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในปัจจุบัน พารามิเตอร์ส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นจริงเมื่อเริ่มต้นการคัดลอกจะใช้ได้ตลอดระยะเวลาการคัดลอกทั้งหมด

หากนักลงทุนเริ่มการคัดลอกใหม่หลังจากพารามิเตอร์ส่วนแบ่งกำไรมีการเปลี่ยนแปลง ค่าใหม่จะถูกนำไปใช้

ในการคำนวณค่าคอมมิชชั่น เราประเมินกำไรคงที่ทั้งหมดนับตั้งแต่ตอนคัดลอกและจำนวนผลขาดทุนลอยตัว ณ ตอนทำโรลโอเวอร์ เมื่อเทรดเดอร์ปิดการเทรดที่ทำกำไร เขาจะไม่ได้รับคอมมิชชันจนกว่ากำไรทั้งหมดจากการเทรดที่ปิดจะมากกว่าขาดทุนผันแปร ในกรณีนี้ เทรดเดอร์จะได้รับคอมมิชชันจากส่วนต่างระหว่างกำไรและขาดทุนผันแปร ในการทำสิ่งนี้ เขาไม่ต้องปิดการเทรดของเขา

หลังจากการโรลโอเวอร์แต่ละครั้งโดยมีค่าคอมมิชชันที่ชำระแล้ว จำนวนกำไรคงที่จากจุดเริ่มต้นของการคัดลอกการซื้อขายจะลดลงตามจำนวนเงินที่จ่ายค่าคอมมิชชั่น

ยกตัวอย่าง:

บริษัทไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้บริการ Copy Trading บริษัทได้รับประโยชน์จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นโดยการให้เงื่อนไขการซื้อขายพิเศษแก่ลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้องการซื้อขายด้วยตัวเอง

ได้ เทรดเดอร์สามารถเปลี่ยนขนาดส่วนแบ่งกำไรของเขา/เธอได้ตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลเฉพาะกับผู้คัดลอกรายใหม่ที่เชื่อมต่อหลังจากตั้งค่าเปอร์เซ็นต์กำไรใหม่แล้ว บัญชีที่คัดลอกทั้งหมดในปัจจุบันจะได้รับเงื่อนไขที่มีอยู่ ณ เวลาที่คัดลอก

จำนวนเงินฝากที่แนะนำสำหรับเทรดเดอร์คือ 500 USD สำหรับการคัดลอกการเทรด โดยปกติผู้คัดลอกเทรดเดอร์ต้องมีจำนวนเงินขั้นต่ำ 50 USD เพื่อให้การคัดลอกการเทรดมีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้พิจารณาจำนวนเงินของเทรดเดอร์ ปริมาณการเทรด จำนวนและประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในการเทรด ใช้เครื่องคำนวณของเทรดเดอร์เพื่อคำนวณมาร์จิ้น ความเสี่ยงและผลกำไรในท้ายที่สุด และต้นทุน 1 pip สำหรับตราสารหนึ่งๆ

เข้าสู่โปรไฟล์ของลูกค้าโดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ

ไปที่เมนูการตั้งค่า ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยลูกศรที่อยู่ติดกับชื่อของคุณที่มุมขวาบนของหน้าจอ ในหน้าโปรไฟล์ของฉัน คลิกแก้ไข

เติมเงินในบัญชีซื้อขายซึ่งจะใช้เพื่อคัดลอกธุรกรรมในส่วน "การเงิน"

กรอกการตั้งค่าบัญชี: ตั้งค่าส่วนแบ่งกำไรของคุณ ทำให้บัญชีของคุณพร้อมใช้งานสำหรับนักลงทุนในการจัดอันดับเทรดเดอร์ และให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณแก่ผู้คัดลอก

บัญชีของคุณจะแสดงขึ้นในการจัดอันดับเมื่อคุณทำให้สามารถคัดลอกได้ อันดับบัญชีของคุณจะขึ้นหรือลงในขณะที่คุณซื้อขายตามผลกำไรการซื้อขายของคุณ

ค่าคอมมิชชั่นจะถูกโอนจากบัญชีของนักลงทุนไปยังบัญชีเทรดเดอร์หลังจากดำเนินการโรลโอเวอร์ นั่นคือหลังจากสิ้นสุดช่วงเวลาการซื้อขาย ค่าคอมมิชชั่นจะจ่ายก็ต่อเมื่อนักลงทุนที่คัดลอกมีกำไรคงที่จากการซื้อขายที่คัดลอกตั้งแต่การโรลโอเวอร์หรือการคัดลอกครั้งล่าสุด หากมีการขาดทุนแบบลอยตัวในบัญชีเทรดเดอร์ (การขาดทุนแบบเปิด) จำนวนกำไรที่จ่ายค่าคอมมิชชั่นจะถูกปรับโดยพิจารณาจากมูลค่าการขาดทุนแบบลอยตัวในช่วงเวลาการซื้อขาย การโรลโอเวอร์จะดำเนินการโดยอัตโนมัติทุกๆ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 01:00 น. ตามเวลาเทอร์มินอล

การโรลโอเวอร์เป็นขั้นตอนอัตโนมัติระหว่างเทรดเดอร์และนักลงทุน โรลโอเวอร์มีความหมายว่า ระยะเวลาการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์และเริ่มมีการเริ่มทำการซื้อขายใหม่ หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการซื้อขายกำไรได้รับการบันทึก เทรดเดอร์จะได้รับเปอร์เซ็นต์ตามที่ระบุของกำไรของนักลงทุน

หากมีการขาดทุนแบบลอยตัวในบัญชีของผู้ซื้อขาย จำนวนกำไรที่จ่ายค่าคอมมิชชันจะถูกปรับโดยพิจารณาจากมูลค่าการขาดทุนแบบลอยตัวในช่วงเวลาการซื้อขาย

โรลโอเวอร์ เป็นการดำเดินการแบบอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง 01:00 (เวลาที่ระบุไว้ในแพลตฟอร์มการเทรด)

ทุกครั้งที่ผู้คัดลอกแยกบัญชีของตนออกจากนักเทรดหรือถอนเงินออกจากบัญชีตน โรลโอเวอร์จะดำเนินการโดยอัตโนมัติในบัญชีของผู้คัดลอก ซึ่งโรลโอเวอร์จะไม่ปิดการซื้อขายใดๆ

Liquidation of a Trader's account means that this account will no longer be used in the Copy Trading system. The rollover is performed automatically before a Trader's account is deleted. All copy accounts will be detached. Open trades will be closed at the current price.

To close the Trader's account, turn off the "Make available for copy trading" switch in the trader's profile settings. Open trades will be closed at the current price.

ไม่มีข้อจำกัดใดๆในการใช้ EA และอินดิเคเตอร์

สมมุติว่า เทรดเดอร์ได้เติมเงินทุนของผ่านการเทรดจาก 500 ดอลลาร์เป็น 550 ดอลลาร์ ลงทะเบียนผลกำไร 10% เทรดเดอร์ได้เปิดเทรดใหม่และตัดสินใจที่จะถอนกำไร 50 ดอลลาร์ จำนวนรวมของ Equity จะเท่ากับ 500 ดอลลาร์ และผลกำไรยังคงอยู่ที่ 10% การเทรดใหม่เป็นขาดทุนและ ​Equity บัญชีลดลงเป็น 450 ดอลลาร์ บางคนคิดว่าผลกำไรควรจะเท่ากับ 0% แต่อย่างที่คุณทราบว่า ​Equity ในบัญชีลดลง 10.1% ไม่ใช่ 10% ตามที่มีการเปิดเทรดใหม่

((650/600 * 550/600) -1) * 100% = - 1%

ดังนั้น การจัดอันดับจะแสดงผลกำไรที่ -1% ยิ่ง Equity เปลี่ยนแปลงเนื่องจากการทำยอดคงเหลือ ผลกำไรก็จะเปลี่ยนแปลงในการจัดอันดับหลังจากการดำเนินการยอดคงเหลือครั้งถัดไป

ไม่ได้ คุณไม่สามารถคัดลอกการซื้อขายของคุณเองได้

เทรดเดอร์มีสิทธิ์ที่จะกำหนดเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นของพันธมิตรเพื่อตอบแทนพันธมิตรซึ่งผู้แนะนำได้กลายเป็นผู้คัดลอกเทรดเดอร์ของเขา/เธอ การตั้งค่านี้เป็นไปโดยสมัครใจและสามารถใช้เพื่อโฆษณาบัญชีของเทรดเดอร์ในชุมชนของพันธมิตร

ผลกำไรจะคำนวณโดยใช้สูตรนี้:

P=((E_end_1/E_begin_1)*(E_end_2/E_begin_2)*...*(E_end_N/E_begin_N)-1)*100%, โดย

P หมายถึง "ผลกำไรใน %"

E_begin_X หมายถึง "เงินทุนที่มีอยู่ ณ ระยะเวลาเริ่มต้น X"

E_end_X หมายถึง "เงินที่มีอยู่ ณ ระยะเวลาสิ้นสุด X"

N means "ระยะเวลาที่ทำการชำระล่าสุด"

โรลโอเวอร์ทำเครื่องหมายสิ้นสุดระยะเวลาการซื้อขายและจุดเริ่มต้นของระยะเวลาซื้อขายอื่นๆ กำหนดสูตรการทำกำไรใน % จากช่วงเวลาของการลงทะเบียนบัญชีนั้น

การทำกำไรของเทรดเดอร์ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การเทรด การฝากเงินและถอนเงินไม่มีผลต่ออัตราการทำกำไรในบัญชี สิ่งนี้จะถูกนำมาพิจารณาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงยอดเงินบัญชีเนื่องจากการดำเนินงานยอดคงเหลือ

ระดับความเสี่ยง

ในช่วงเดือนแรกของการซื้อขาย บัญชีของเทรดเดอร์จะถือว่าเป็นบัญชีใหม่และมีจุดเสี่ยง 6 จุด ดังนั้น นักลงทุนที่คัดลอกจะได้รับคำเตือนว่าบัญชีนี้อยู่ในประเภทที่มีความเสี่ยงสูง หลังจากช่วงเวลานี้สิ้นสุดลง ปัจจัยความเสี่ยงของบัญชีจะถูกคำนวณใหม่ทุก ๆ ชั่วโมงตามกฎที่อธิบายไว้ด้านล่าง

บัญชีเทรดเดอร์จะถูกจัดประเภทบนพื้นฐานของอัตราความเสี่ยง:

ความเสี่ยง 1-3 (ทำเครื่องหมายสีเขียว) บัญชีเทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ปกติแล้วหมายถึงไม่มีการเทรดในระหว่างการเผยแพร่ข่าว (ในช่วงความผันผวนสูง) และไม่มีตำแหน่งใหญ่ๆ (เมื่อเทียบกับจำนวนเงินในบัญชี)

ความเสี่ยง 4-7 (ทำเครื่องหมายสีเหลือง) บัญชีเทรดเดอร์ช่วยให้ Drawdown และ Deposit Load อยู่ในระดับปานกลาง รวมทั้งปริมาณเทรดก็ปานกลาง

ความเสี่ยง 7-10 (ทำเครื่องหมายสีแดง) โดยปกติเป็นบัญชีใหม่ของเทรดเดอร์จะใช้กลยุทธ์การเทรดเชิงรุก Deposit Load สูงและเทรดในเวลาข่าว บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์จะไม่ทำตามกลยุทธ์การเทรด

ระดับความเสี่ยงของบัญชีเทรดเดอร์ขึ้นอยู่บนพื้นฐานของประวัติการเทรดของเทรดเดอร์และมีการคำนวณโดยอัตโนมัติตามพารามิเตอร์นี้ (ระดับอิทธิพลของแต่ละพารามิเตอร์กับคะแนนที่มีการระบุไว้ในวงเล็บ)

1. จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด (Maximum Relative Drawdown) (ปัจจัยน้ำหนัก (Weight Factor) 0,5)
2. อัตราการใช้เงินฝากสูงที่สุด (ปัจจัยน้ำหนัก (Weight Factor) 0,3)
3. เลเวอเรจ (ปัจจัยน้ำหนัก (Weight Factor) 0,1)
4. อายุการใช้งานบัญชี (ปัจจัยน้ำหนัก (Weight Factor) 0,1)

แต่ละพารามิเตอร์ข้างต้นมีขนาดของตัวเองจาก 1 ถึง 10 และน้ำหนักของตัวเองในการประเมินความเสี่ยง รวมอัตราความเสี่ยงทั้งหมดเป็นค่าที่ปัดเศษเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด

ดังนั้น อัตราความเสี่ยงทั้งหมดจะถูกกำหนดโดยข้อสรุปการรวมจุดสำหรับแต่ละพารามิเตอร์คูณด้วยปัจจัยน้ำหนัก (Weight Factor) ของตัวเอง

ความเสี่ยง = จุดของการขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด * 0,5 + จุดอัตราการใช้เงินฝาก * 0,3 + จุดของเลเวอเรจ * 0,1 + จุดของอายุการใช้งานบัญชี * 0,1

จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด (ปัจจัยน้ำหนัก 0,5)

จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุดแสดงเปอร์เซ็นต์ของการขาดทุนในบัญชี

คำนวณโดยใช้สูตรดังนี้:

Max ((MaximalPeak – NextMinimalPeak) / (MaximalPeak + 100) * 100) (%), โดย:

Max — ค่าขาดทุนต่อเนื่องสูงที่สุด;
MaximalPeak — มูลค่าสูงสุดที่สอดคล้องกับ Max ในชาร์ตผลกำไร;
NextMinimalPeak — มูลค่าต่ำสุดตาม NextMinimalPeak ในชาร์ตผลกำไร

อัตราการใช้เงินฝากสูงที่สุด (ปัจจัยน้ำหนัก 0,3)

อัตราการใช้เงินฝากคือเปอร์เซ็นต์ของส่วนของบัญชีที่ใช้เป็นหลักประกันสำหรับคำสั่งซื้อที่เปิดอยู่

คำนวณโดยใช้สูตรดังนี้:

Margin / Equity * 100(%), โดย:

Margin – จำนวนเงินฝากที่จำเป็นในการเปิดตำแหน่ง;
Equity – อิควิตี้ของบัญชีในปัจจุบัน

เลเวอเรจ (ปัจจัยน้ำหนัก 0,1)

เลเวอเรจคืออัตราส่วนระหว่างเงินฝากและเงินที่ยืมมา เลเวอเรจ 1:400 หมายความว่าคุณต้องมีจำนวนเงินในบัญชีซื้อขายของคุณซึ่งน้อยกว่าที่จำเป็นในการเปิดคำสั่งซื้อขาย 400 เท่า

อายุการใช้งานบัญชี (ปัจจัยน้ำหนัก 0,1)

ยกตัวอย่าง

สมมติว่าบัญชีมีพารามิเตอร์และจุดต่อไปนี้ (โดยไม่พิจารณาปัจจัยน้ำหนัก):

• จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด: 24,7% = 5 จุด;
• อัตราการใช้เงินฝากสูงที่สุด: 13,9% = 3 จุด;
• เลเวอเรจ: 1:400 = 10 จุด;
• อายุการใช้งานบัญชี = 10 จุด;

ดังนั้น อัตราความเสี่ยงกับปัจจัยน้ำหนักจะถูกพิจารณาด้วยการคำนวณดังนี้:

ความเสี่ยง = 5x0,5 + 3x0,3 + 10x0,1 + 10x0,1 = 5,4 ≈ 5